Friday, March 13, 2009

4 ปีแห่งความ....

ปี 1 แห่งความสดใสร่าเริง
ทั้งๆที่ ก็ไม่รู้ว่า วิทยาการคอมพ์ มันเรียนยังไง ไม่ได้ศึกษามาก่อนเลย
Course Description ไม่เคยดู ว่าสี่ปีต่อจากนั้น จะต้องมารับรู้อะไร
เข้ามาเพราะตามคำเชิญชวนของเพื่อน คิดว่าคงไม่ยากมั้ง
(เรื่องเพื่อนนั้นก็ไม่อยากจะพูดถึงนะคะ ..หึหึ)
สุดท้ายของที่สุด มันก็อยู่กับตัวกูเองนะแหละ
ก็เลือกมาแล้วนิ .. กูเลือกเองนี่
...
กูเลือกของกูเอง
...

หึ หึ
...
เป็นเฟรชชี่ ก็ทำตัวสดซะเหลือเกิน
เป็นหล่งเป็นหลีด
(กูตามเพื่อนอีกแหละ กลัวไม่มีเพื่อน กลัวตกกิจกรรม)



เฮ้ย ...เค้าสวยอ่ะ
!!!!

ตอนนั้นมีอีพี่ว๊ากคนนึงมันตามจีบกูด้วย
ป่านนี้แม่งคงสมน้ำหน้ากูอ่ะ
(ถ้าเอามันนะ ป่านนี้กูคงมีแพลนแต่งงานแล้วมั้ง 55 )



แล้วก็ จริงๆอ่ะ เราอยู่กันประมาณนี้นะ
ก็ค่อนข้างงุงิบ้าง เที่ยวๆช็อปๆลันล้า ร้องเกะ
...
แต่ก็ ค่อนข้าง ไม่เต็มที่นะ (โดยส่วนตัวกู)
กูก็ไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง ในคนบางคน
...หึ หึ


นี่ก็ รูปตอนที่ไปทำงานที่สยามพารากอน
มีรุ่นพี่ชวน
ทำวันนึง ไม่กี่ชั่วโมง ได้มาพันนึงมั้ง


อันนี้เป็นบายเนียร์พี่ CS03
---------
ปีหนึ่งอะ กูก็มีแฟนนะ มันชื่อโฟล์ค ภาคฟิสิกส์
นิสัยดีมาก มันแคร์กูดีนะ ...ชอบ
หลายคนคงเคยเห็นว่ากูอินเลิฟ กริ๊บกริ้ว อยู่ช่วงนึง

แต่มันก็แค่ช่วงนึงแหละ
.....
ตอนนี้กูกะมันก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
แล้วมันก็คงเจอกับคนที่มันรักจริงๆแล้วล่ะ
กูก็แอบอิจฉามันนะ
ยังไงก็ ขอบใจมัน ที่ทำให้ช่วงชีวิตนึงของกูมีความสุข
อย่างน้อยมันก็ทำให้กูพูดได้ว่า อยู่มหาลัย กูเคยมีแฟนตั้งคนนึง
ขอบคุณที่ทำให้กูดูเป็นวัยรุ่นที่ปกติ
....
ปี 2 แห่งความสับสน
วันนึง กูพาแม่ไปตรวจที่โรงบาล
แล้วผลตรวจพบว่า แม่กูเป็นมะเร็ง
มันเศร้ามาก
คำว่า มะเร็ง มันรุนแรงเกินไปสำหรับครอบครัวกูนะ
ก็ไม่เคยมีใครเป็นนี่หว่า
แล้วจากกรณีศึกษาของคนที่เคยเป็น มันก็ ..น่ากลัวนะ
กูก็ต้องดูแลแม่ จัดการอะไรๆให้แม่
หมอนัด หมออธิบาย หมอพูดเหี้ยอะไรกูรับรู้หมด
แม่กูก็ทำหน้าที่เป็นคนไข้ไป
แต่แม่กูอะ เค้าไม่ฟังหมอ เค้าเชื่อว่า มะเร็งจะละลายได้ด้วยยาสมุนไพร
...กูละเครียด มันต้องหายด้วยการผ่าตัดสิแม่
แม่กูดื้อมาก กูก็เครียด เพราะเพื่อนกูศึกษาเรื่องมะเร็งมา
แม่งก็พูดกรอกหูกู ถึงผลเสียของการไม่ผ่าตัด
แล้วจะไม่ให้กูเชื่อเหรอ ก็มันวิทยาศาสตร์อ่ะ
...
กูทะเลาะกะแม่ทุกวันเลย ไปเรียนก็ไม่ค่อยได้ไป
เพราะพาแม่ไปหาหมอตามนัดนี่แหละ
บางทีหมอนัดก็ไม่ไป นัดเสียเที่ยว ต้องเริ่มใหม่
มันเสียเวลากูมากนะ งานที่บ้านกูก็ต้องช่วย
...
กูเริ่มไม่่ค่อยสนใจเรียนแล้วล่ัะ
เพราะกูตามไม่ทัน กับเพื่อนก็ไม่ค่อยได้คุย
ยิ่งเวลามีงานกลุ่มนะ กูจะละอายใจมากที่สุด
หน้าเพื่อนกูก็ไม่ค่อยกล้ามอง
กูอึดอัดมาก ชีวิตกู ไม่เคยเป็นอย่างงี้กับการเีรียน
....
บังเอิ๊ญญ

ปิดเทอม กูก็ไปเข้าโครงการ
ธรรมทายาทหญิง
มันคือโครงการอะไรกูก็ไม่รู้หรอก



คิดแค่ว่า กูไม่อยากอยู่บ้าน กูไม่อยากเจอเพื่อน
กูอยากอยู่นอกโลก
กูหวังว่าคงได้ไปสงบจิตใจนะ
ก็ถือว่า ยังดีกว่า หนีออกจากบ้านไปมีผัว
นะ....

พอไปแล้วมันก็ดี ของฟรีเยอะดี
เพื่อนผู้หญิงน่ารักๆเยอะดี
พระอาจารย์หล่อดี
เอ้า อีนี่
555+

จบโครงการ กูก็ยังไปอาสาช่วยเค้า
กูได้ไปแจมยู่ในทีมทำเว็บ
และก็ได้รู้จักรุ่นพี่คนนึง ชื่อพี่ลักษณ์ เค้าเก่งมาก
เป็นเจ้าของบริษัทLuckySmile dot com
เค้าแนะนำอะไรกูดีมาก
ไม่อมภูมิ ไม่หวงความรู้
ทำให้กูมีเรี่ยวแรงจะเรียนCSต่อ
จริงๆ กูจะซิ่วนะ เพราะมันไม่ไหวจริงๆ
พ่งเพื่อนในคณะกูก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว ..ตอนนั้น
กูอยากไป มธ.

โครงการ CyberStar club ของจุฬา
....

แล้วก็ได้เที่ยวด้วย ภูเก็ต- เชียงใหม่





งานปล่อยโคมยี่เป็ง เชียงใหม่


....
สังคมก็ ธรรมะธรรมโม มากกกกกก
กูไปอยู่โครงการประมาณสามเดือนได้
กูถูกหล่อหลอมนะ
ความเป็นตัวของตัวเอง ของกู ถูกบดบัง

สามเดือนน่ะมึง สามเดือน
คนเรา ถ้าปฏิบัติอะไรติดต่อกันอย่างน้อยสองอาทิตย์เป็นกิจวัตร
มันก็จะเริ่มซึมซับเข้าสู่ระดับจิตสำนึก
แต่นี่กู ...3 เดือน

....
สิ้นสุดโครงการแล้ว กลับบ้านมา กูยังตื่นตีสี่
ตอนกินข้าวกูก็ยังเผลอท่องอะไรออกไป
คือกูปรับตัวไม่ทันน่ะ
เพื่อนๆคงมองว่า กูเพี้ยนไปนะ
ไอ้บาส รุ่นน้องก็แซวกูเหลือเกิน
วันนี้พี่อ้อมไม่ถือศีลแปดหรอคับ
...
เคียด
..
ตอนนั้น กูก็ สับสนว่ะ ออกแนว เก็บกด
ตกลง กูไม่ได้ดีขึ้นเลยใช่มะ
...

กูก็ เห็นท่าจะไม่ดี กูไม่ได้อยากจะเป็นแม่ชี
การแสดงออกว่าตัวเองเป็นคนดี
มันไม่เหมาะกับโลกแห่งความจริง
เพราะ เพื่อนไม่คบ และก็ดูเหมือนกูสร้างภาพ
...
กูก็ ได้บทเรียนนั้นมา
...

และแล้วกูเริ่มติดชมรม IJC
(กูเข้าชมรมตั้งแต่ได้ไปเข้าค่ายภาษาอังกฤษตอนปี1)
ในที่สุด IJC ก็ทำให้ผีเข้าร่างกูอีกครั้ง
!!!
กูเริ่มมาทำกิจกรรมกะ IJC
จัดค่าย เป็นสต๊าฟ จัดโครงการ บลาๆ
เวิ่นเว้อมาก
...


เรือดูลอส


ค่าย English to School นครปฐม


ค่าย Leadership เกาะเสม็ด


Korean Night ที่หอสมุด


Alumnight ที่บ้านอาจารย์วู้ดดี้(วิทยากรประจำชมรม)

การเข้าชมรม มันทำให้กูกล้า ทำให้กูแรด กระแดะ
รู้จักคนต่างชาติ รู้จักอะไรใหม่ๆ ทั้งวัฒนธรรม ทั้งภาษา
ทำให้กูรู้จักเืพื่อนต่างภาค สนิทกับรุ่นพี่CS
รู้จักความรับชอบในหน้าที่ระดับมหาลัย
รู้จักคนทำงานในหลายๆแบบ
รู้จักความแตกต่างของคนในโลกนี้มากขึ้น
..
แค่ทำตัวโง่ ก็ได้รู้อะไรเยอะแยะจากคนที่อวดฉลาด
..
จริงไหม?

(แต่กูก็ โง่จริงๆ ไม่หลอก 555+)

แล้วมันก็ ทำให้กูชอบภาษาอังกฤษ
เพราะว่ามันทำให้กูแปลจากคำหยาบไทย เป็นคำสามัญในอังกฤษได้
กูล่ะชอบจิงๆ 555

อ่อ กุเข้าIJC แล้วก็สนิทกับมีวด้วยนะ
มีวพูดภาษาอังกฤษคล่องปร๋อมาก คือว่า เรายกให้เป็นไอด้อล
มีวเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงนะเราว่า อารมณ์She ถาปัตมาก
ชอบครีเอท แล้วก็ออกมาได้ดีด้วย



ตอนนั้นก็ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย
มีวเป็นคนที่แมนมาก คือแบบ ..เจ๊นท์อะ
ใครได้เป็นแฟนมีวคงโชคดีนะ
มีคนแคร์ตลอด
จิงปะฮะ น้องบัว แมคคา 555+
...
มีอีก ปีสอง ยังไม่หมด

กุสอบติดค่าย Young Webmaster Camp ด้วย


กูได้ไปโชว์ความกากอย่างมากมาย
แต่ช่างแม่ง จะไปคิดอะไรมาก กูแค่ปีสอง
อย่างน้อยกูก็ได้รู้จักคนเก่งๆ
รู้ขั้นตอนการทำเว็บ รู้เบื้องหลังแบบจริงจัง จากที่ไม่เคยรู้มาก่อน
....

อ่อ มีเที่ยวอีก เป็นงานสัมนกิจของสภานักศึกษา ที่กาญจนบุรี
ก็หรูดีนะ


......

อันนี้ค่าย JPC ถ่ายกะน้องกึ๊ม
มาแจมแป๊บเดียว ไม่ค่อยได้ช่วยหรอก งานของภาคอ่ะ
กุอาจเป็นพี่รหัสที่แย่มากๆนะ ขอโทษว่ะน้อง
พลอย กึ๊ม เล้ง ..เซ็งพี่อ้อมป่าววว



555+

บายเนียร์CS03

เอ๋ โอออ (เสียงเทเลทับบี้นะ)



ซ้อมรับปริญญา
( พี่ๆ เลี้ยงบ่อยมาก ^_^ )
...
หมดซะที ปีสองแห่งความสับสนเิวิ่นเว้อของกู
เรื่องเกรด
..ไม่ต้องสืบ

....
ปี 3 แห่งความวุ่นวาย
ตอนซัมเมอร์ มีเืพื่อนกูคนนึง มันคืออีหนิง
กูไม่รู้ว่า เพราะโชคชะตาหรือเคราะห์กรรมอันใด
ที่ทำให้กูรู้จักกับมัน อีเด็กวัดราช 55+


อีหนิงอะ มันชวนกูไปทำงานในเรือดินเนอร์
ไปเป็นพนักงานต้อนรับ มันเป็นอาชีพที่มันส์มาก
ถ้าอยากรับรู้อารมณ์ตอนช่วงทำงานก็ลองอ่านหน้านี้ นะ
ทำงานที่นี้แล้ว ได้อะไรเยอะ ตังค์ก็เยอะดี
ที่สำคัญ ได้รู้จักคนในอีกมุมที่แตกต่าง จากที่เคยเห็นอ่ะ
เปิดหูเปิดตามาก



กะ อีผู้หญิงคนนี้ กุก็ไปไหนมาไหนด้วยบ่อย
มันแรดดี มันก็หล่อหลอมกูเหมือนกันนะ
ตัวแม่เลยแหละ อีเนี่ย


....
จากนั้น ก็เริ่มเปิดเทอมค่ะ
ความวุ่นวายมันเริ่มที่นี่แหละ
คือว่าชมรมกูน่ะ ต้องจัดค่าย มีอยู่สองค่าย
เป็นค่าย English to School กับ English Camp 2007 ของชมรม
.....
ค่ายแรก
English2School ที่ลพบุรี
งานนี้กูภูมิใจสุดอะ เพราะจัดการ ติดต่อเองหมด
แล้วก็ประสบความสำเร็จสูงสุด
เด็กต่างจังหวัด เค้าได้รับจริงๆอ่ะ ไม่เหมือนมาสอนเด็กในเมือง
ขอบคุณทีมงาน พี่ๆCS เพื่อนสยาม ไอ้ซากอ้อย




ค่ายต่อมา
English Camp 2007
มันวุ่นวายมาก โดยเฉพาะเรื่องเอกสาร แล้วก็ติดต่อคนนู้นคนนี้

แต่ว่าค่ายนี้ก็สนุกมากเลย ได้รู้จักเด็กบางมดเพิ่มอีกเยอะ
มีCSมาสามคน อิก้อย อิเจน อิไต๋
....
แล้วไม่รู้ว่ากูฟิตจัด หรือบ้าอะไร
ไปเป็น อาสาสมัคร กีฬามหาวิทยาลัยโลก
กูเคยแอบคิดว่า กูเป็นนักศึกษาที่บ้าระห่ำนะ
เค้าให้มึงมาเรียน ไม่ได้ให้มึงมาทำเหี้ยอะไรเยอะแยะอย่างงี้
แต่กูก็ทำไปแล้วล่ะ
เฮ่อ
...
งานนี้ ก็ไปกะมีว ขาเพี้ยนพอๆกัน
แต่มีว จะมี สติสะตัง สมบูรณ์กว่ากูมากนะ



อาสาสมัคร ก็ ได้เป็น ผู้ดูแลนักกีฬาทีมชาติบาฮามาส
มันฮามาก คนดำอ่ะมึง
มันฮาจริงๆนะ
555+ เหี้ยจริงๆ

ถึงแม้ว่า ภายนอกเค้าจะดูน่ากลัว
แต่ถ้าได้คุยแล้ว จะรู้ว่า แม่งบ้า

555+
เอาวะ ถือว่า ถ้ากูชงกาแฟอยู่บ้านคงไม่ได้เจออะไรแบบนี้
....
...
กูคิดถึงผมยาวๆว่ะ

แต่ตัดละก็สบายดีนะ
..
ไม่มีไรกูแค่ดูรูปแล้วนึกถึงเฉยๆ
^__^

......
......

อ่า ปลายปีละ
ค่ายต่อมาก็ Leadership Camp ของ IJC เจ้าเก่า
ค่ายที่สามของปีนี้แล้วนะฮะ
ก็เหนื่อยเช่นเคย ต้องช่วยเค้าจัดการนู่นนี่


ค่ายนี้ก็ จัดที่ กาญจนบุรี
วิวสวยดี หนาวด้วย

...
ช่วงลอยกระทง
อีหนิงอีกแล้ว
มันก็มาชวนไปทำงานในเรือ
ดีๆ กูได้ตัง


....
แล้วก็ ต้นปี51 จัดค่ายอีกแล้ว!!!
ค่ายEnglish2School คราวนี้จัดที่ กทม
เอาตังเข้าชมรมอะนะ

สต๊าฟก็ไม่ได้อะไรกะเค้าหรอก
เหอๆ
ช่วงนี้กูมีคนคอยเดินตามด้วยนะ
กูก็หวั่นไหวตามระเบียบ
แต่ก็แค่นั้นแหละ
5555+

พอซะทีเถอะปีสาม อีห่า ค่ายเยอะชิบหาย
มีโล่ให้กูมั้ย?

....
ตอนซัมเมอร์ กูก็ไปฝึกงานที่ ASIS นะ
ทุกอย่างดีหมด
ติดตรงที่มีคนจ้องหาเรื่องกู
มันก็คือเมียโปรแกรมเมอร์
หึงสามี ที่หล่อมากๆ ถามหญิงดูได้
ขอโทษเถอะนะ
ให้กูเอากุมารทองทำผัวยังดีกว่าเอาอีพี่คนนี้
อีเหี้ย นอกจากทำให้กูไม่ได้ความรู้แล้วยังหาเรื่องให้กูอีก
กูหลุดความสถุนเพราะอีดอกนี่แหละ
ใครเคยอ่านใน Journal hi5 กูจะรู้ว่ามัน มันส์มาก
กูเขียนเอาไว้ใน บทความถึงคุณโรคจิต
...
ในช่วงฝึกงาน กูไม่ได้อยู่บ้าน
อยู่หอพี่ฝน กูรู้สึกว่ามันอิสระมาก
พี่ฝนเค้าก็ดีกะกูมากๆ ติวให้ แนะแนวให้
พี่เค้าตั้งใจเรียนมาก เป็นคนเฉียบเป๊ะๆ
...
แล้วกูก็ได้ไปสนิทกะเพื่อนคนนึงช่วงฝึกงาน มันชื่อต้น
กูรู้จักกะมันทางเอ็ม สมัยกูจัดค่ายEnglish2School
มันเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีนึง
อยู่มหิดล
กูคุยกะมันเรื่องความเซ็งของกูให้มันฟัง
มันกล่อมแม่กูจน แม่กูยอมผ่าเอามะเร็งออก
..เป็นปีแล้วนะ หลังจากตรวจพบมะเร็งน่ะ
(แม่กูดื้อมาก ทำให้กูเซ็ง ไม่อยากอยู่บ้าน)
...
ไอ้ต้นมันเป็นคนดีนะ พากูเปิดหูเปิดตา
พากูเที่ยวเยาวราชตอนดึกๆ เลี้ยงข้าวอีก
ทำให้กูมองคนในมุมอื่นๆอีก
มันก็เล่าเรื่องของมันให้กูฟัง
มันนี่ก็ เพลย์บอย ใช่เล่น
กูฟังแล้ว ก็ทำให้รู้จักผู้ชายมากขึ้น
มึงสับรางเก่งจริงๆ
แต่ตอนนี้มึงมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว อยู่สวิส ดิ อย่างหรูอะ
แล้วก็ขอให้มึงเต็มที่กะแอมเวย์ต่อไปนะ
กูไม่อาววว
กูจะรอดูเพื่อนประสบความสำเร็จว่ะ
กูจะไม่ขออะไรมึงเลยนะ ขอแค่ อย่ามาชวนกูเลยน๊าาา
T__T
เพื่อนร้าก
....

เรื่องเพื่อน หลังจากที่กูเริ่มปลดความเป็นแม่ชีทิ้ง
ประกอบกับแรงเสียดสี กระแทกแดกดันจากเพื่อนในกลุ่ม
อีแอน มึงนะแหละ มึงเหวี่ยงกูเจ็บสุด
(อย่าถามว่าตอนไหน เพราะกูลืม 555)
ทำให้กูเริ่มสำนึก แล้วกูก็เริ่มเข้ากับเพื่อนๆได้อีกครั้ง
คราวนี้ดูท่าทางกูจะบ้ากว่าเก่า
เหมือนอย่างที่ไอ้Xเคยด่ากูไว้

ว่า คนเราพอได้ศึกษาอะไรสูงสุด
ก็ต้องได้เรียนรู้สิ่งที่ต่ำสุดเช่นกัน

เอาวะ อย่างน้อยกูก็ได้รู้ว่าอะไรสูง อะไรต่ำ

กูอยากขอบคุณ อีหญิง กะออยมากว่ะ
ที่มึงเอากูเข้ากลุ่มโปรเจ็กจบนะ
ไม่งั้นกูคงเคว้ง

ตอนฝึกงาน พวกเราชิวมากไปหน่อยนะ
ไม่งั้น โปรเจ็คคงเสร็จไปแล้วหล่ะ
โอกาสมันไม่เอื้ออำนวยให้เราทำโปรเจ็กกันเลยนี่หว่า

แต่ลองคิดดูนะ ถ้ากูเอาเวลาช่วงนั้นมาทุ่มกะโปรเจ็ก
กูคงไม่ได้เพื่อนใหม่ดีๆ ไม่ได้เที่ยว
และพวกเมิงก็ไม่ได้เปิดหูเปิดตาใช่มะ อี หญิง ออย
555+

พอก่อนเถอะนะ ปี 3
มันเหี้ยจริงๆ
จิงปะอีหญิง

ยังมีปี4 อีก กูจะเขียนแยก เพราะว่ามันล่าสุด
จดจำอะไรได้เยอะสุด
.....

ความมันส์กำลังจะถูกเผยแพร่แล้ว
พรุ่ง!! นี้แหละ
อิดอกกกกก

เกาะมันนอก ระยอง





ไปกับ Kaplan Eng Camp#8
เป็นค่ายฟรีที่มีความสุขและสนุกมาก


Photobucket



Event :
KAPLAN English camp #8


Location : Mun Nork island, Rayong

Date : January 13-15, 2009

Special Thanks : Tai-Rachta Surattakul (for the camera)

ริมหาด loading picture..

เปล loading picture..
ฝากรอยเท้าเอาไว้ loading picture..

ความรักบนผืนทราย loading picture..
พระอาทิตย์ลาขอบฟ้า loading picture..

บ๊ายบาย พระเอาทิตย์ loading picture..
พระอาทิตย์จะตกทะเล loading picture..

จันทร์ยังเต็มดวง loading picture..
เก็ท A นะ loading picture..


Photobucket



Keep walking ...Phu Kra Dueng(2)

วันนี้ เป็นวันแห่งการผจญภัยละ เที่ยวให้ทั่วซะ
…!
เช่าจักรยานคันละ350 เที่ยวได้ทั่วภูเลย
อะไรๆก็บรรยายไม่ดีเท่าภาพหรอกเนาะ
แต่ถ้าจะให้ดีจริง ต้องไปเองว่ะ 55+
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket

ขับจักรยานวิบาก มันส์โคตร
ทางลาด ทางชัน ทางหิน รากไม้ หน้าผา แบกข้ามโขดหิน
มันส์มากมึง กูเกือบเป็นหมันหน่ะ !! 555+
….
ขับเลียบหน้าผาชมวิวไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก
ตากแดดตากลมตามหน้าผา ถ่ายรูปโดดๆกัน หนุกดี
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket

และก็ไปสิ้นสุดที่”ผาหล่มสัก” ประมาณ9กิโลจากที่พัก
ไปดูพระอาทิตย์ตกดิน
ถ่ายรูปด้วย ไอ้ไต๋แม่งบ้า
มันไปนั่งห้อยขาที่หน้าผา
อีเหี้ย!!!
แค่มองลงไปข้างล่างเยี่ยวก็จะราดอยู่แล้ว
มึงจะห้อยก็ห้อยไปเหอะนะ เรื่องของมึง
แต่กูต้องเป็นตากล้องให้มึงนะสิ อีห่า
กูต้องไปอยู่ในตำแหน่งที่ถ่ายรูปมึงได้
มันก็คือตำแหน่งขนานกับมึง น่ะ สัด
มือกูงี้ สั่นไปหมด มองลงล่างไม่ได้เลยจริงๆ
ไม่งั้น ขาแข็ง …จะกรี๊ด
ห่าลากดีนะมึงไม่ตกลงไปน่ะ เฮ้อออ
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket

ขากลับก็ปั่นจักรยานกลับที่พัก 9 กิโลนะแหละ
อ๊ายย สนุก โคตร
มันมืดแล้ว แต่ที่หน้าจักรยานมีไฟฉายอยู่
ก็ชอบมาก ลมเย็นๆ ขับแบบร่อนๆ
ตรงไหนมีทรายหรือเป็นเนินก็เดินเข็นเอา
แล้วก็ถึงที่พักภายในเวลา1ชั่วโมง
กินข้าว ล้างหน้า แปรงฟัน
กูไม่อาบน้ำหรอก มันหนาว
แล้วก็เตรียมตัวจะนอน
ดีนะคืนนี้ไปเช่าผ้าห่มโตโต้มาเพิ่มอ่ะ
เพราะว่าเมื่อคืนไม่ไหวจริงๆ
บางคนมันมากับเพื่อนเป็นกลุ่ม ก็เฮฮากัน
เอากีต้าร์มาดีด เอาเหล้า เอาขนมมากิน
กูล่ะอยากไปแจม เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเสือก
นอนฟังพวกมันก็มีความสุขละ
แม่ง ร้องเพลง
“ ยามลมโชย โบกโบยพัดมา สุข อุราแสนเพลิน
มองไปทางใด ก็แสนเพลิดเพลิน แต่ผู้หญิงมันเมินมันไม่มอง
อีดอกทอง อีส้นตีน อีหน้า …”
555+
กูชอบ เพลงโปรดกูหล่ะ
เอ๊ยยย ก็พูดไป๊
เพลงเหี้ยๆแบบนี้ถ้าเรามองว่ามันดี ก็ดีนะ
กูว่า ดีออก มันเหมือน สอนผู้หญิง
โดยเฉพาะประโยค ”กูXXXแล้วทิ้งกูไม่รับเป็นพ่อ”
นะ 555+
มันก็สะท้อนสันดานผู้ชายนะแหละ เหอะๆ
แล้วกูก็หลับอย่างสบาย เพราะเพลงกล่อมจากอีพวกนั้น
เฮ่ย ไม่ใช่!!
เพราะอุ่นตะหาก ผ้าห่มหนาดี วิกวิ้วว
….
ตอนเช้า ตื่นมา เจ็ดโมงได้มั้ง โคตรสบายเลยว่ะ
ชอบๆ
แล้วก็อาบน้ำ
ไอ่สาดดดดด!!
เหมือนกูเอาน้ำจากตู้เย็นมาอาบเลย
เหี้ยตัวไหนมันดักควายกู บอกว่ามีเครื่องทำน้ำอุ่น
ชาไปทั้งตัวเลย แต่ก็ สามวันแล้วล่ะ 5555
ควรจะอาบบ้าง อะไรบ้าง
เสร็จก็เตรียมตัวลงภู ประมาณ เก้าโมงมั้ง
เดินลัลล้าอยู่สองคนกะไอ่ไต๋น่ะ
สดชื้น สดชื่น
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
ขาลงมันง่ายกว่าขาขึ้นก็จริง แต่แม่งเกร็งว่ะ ขาเกร็งอะ
ถ้าเมิงล้ำหน้าคือมึงหัวทิ่มอ่ะ
ทรมานขา กลับไปบวมกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ 55+

...
ก่อนออกจากภูกระดึง ได้เกียรติบัตรมาด้วยล่ะ

Photobucket
เก็บขยะบนภูกระดึงเกิน1โล ลงมา ได้ใบนึง
555+ ภูมิใจๆ
แวะซื้อของฝากด้วย เป็นพวงกุญแจ กระเป๋าผ้า ผ้าพันคอ
แล้วก็นั่งรถออกจากภูกระดึง ไปที่ ”ผานกเค้า”
ไปต่อรถเข้า กทม เลย
ค่ารถก็สี่ร้อยกว่าบาทละมั้ง
จริงๆมีรถไปขอนแก่นด้วย อยากเที่ยวขอนแก่นต่อนะ
แต่อยากกลับ กทม เร็วๆว่ะ เดี๋ยวแม่สงสัย
เอ๊ะ ทำไมลูกชั้นทำโปรเจ็คหลายวัน ฮ่าๆ
คราวหน้า ค่อยเที่ยวขอนแก่นว่ะ หาไกด์อยู่ด้วย
ใครพาเที่ยวกุหน่อยเด๊ะ 55+
Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
กลับถึง กทม โดยสวัสดิภาพ
สภาพนี่โทรมสุดๆ หน้าดำๆแดงๆอ่ะ แดดเผา
ไม่ได้ทาอะไรเลยนี่หว่า
(ก็น้ำกูยังไม่อยากจะอาบเลยอะ)
คงต้องใช้เวลาฟื้นฟูสภาพผิวหน้ากันละ
มาถึงหมอชิต ไอไต๋ถูกกระเทยแทะโลมอีก
“อ๊าย เสื้อขาวหล่อจัง”
กระเทยโคตรน่ากลัวอะมึง ยังกะ เดอะร็อค
ห่าแม่ง บนภูกระดึงก็เกย์ทั้งนั้นเหอะ
หาผู้ชายไม่มี ที่มี มันก็มากะแฟนน่ะ
555+ โลกนี้หนออ
PhotobucketPhotobucket Photobucket
..
กลับถึง บางมด ประมาณเที่ยงคืนมั้ง
มาอาศัยหออีRซุกหัวนอน
อิ๊ๆ ขอบใจนะยะ
แล้วกูก็ค้นพบว่า ของที่ระลึกหายไป
มากไปกว่านั้น กล้องเส็งเคร็งกูหายไป
ฮือๆ
T_T
ทำไงได้วะ หายไปแล้ว
เศร้าสิ
ยังไงก็ มีรูปจากกล้องไอไต๋แหละ :D
….
ลาก่อนนะ ภูกระดึง ประทับใจมาก
คราวหน้าจะไปเที่ยวอีก
ยิ้ม